ทำไมเด็กจบใหม่สตาร์ตเงินเดือนไม่เท่ากัน? ทั้งที่ประสบการณ์ในการทำงานเป็นศูนย์เหมือนกัน งงมั้ย? แต่มันมีเหตุผลค่ะซิสไปดูกันว่าเพราะอะไรบ้าง? จะได้ใช้เป็นแนวทางในการขออัปเงินเดือนในอนาคตค่า
อ้างอิงภาพจาก : Pinterest
.
1. สายงานต่าง เงินเดือนก็ต่าง
เทียบให้เห็นชัดเลย อย่างเช่น คนที่จบสายไอทีกับคนที่จบสายการตลาดปีเดียวกัน ไปหางานก็ได้เงินเดือนต่างกันค่ะ เพราะลักษณะงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้เป็นสาเหตุที่เด็กจบใหม่แต่ละคนได้เงินเดือนไม่เท่ากัน
.
2. ผลงาน
เด็กจบใหม่จะมีประสบการณ์ทำงานจริงก็ช่วงตอนไปฝึกงาน ซึ่งแทบทุกคนก็ผ่านการฝึกงานทั้งนั้น แต่สิ่งที่แต่ละคนจะมีไม่เหมือนกันคือผลงานค่ะ ถ้าโชคดีเข้าไปฝึกงานตอนมีโปรเจคใหญ่สำคัญ ๆ ให้เรามีส่วนร่วมก็เท่ากับว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจคนั้นด้วย และมีผลในการเรียกเงินเดือนเช่นกันค่ะ
.
3. ระดับความเชี่ยวชาญในสายงาน
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของเราเองล้วน ๆ และก็มีผลต่อจำนวนการสตาร์ตเงินเดือนด้วยค่ะ เช่น ถ้าเราจบด้านเขียนโปรแกรม เราเขียนได้กี่ภาษา ยิ่งได้หลายภาษาก็ยิ่งได้สตาร์ตเงินเดือนเยอะตามไปด้วย
.
4. สกิลเสริมหนุนงานหลัก
เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ถ้าทำ…นี้ได้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ” ไหมคะ นั่นแหละค่ะเอาไว้ใช้อัปเงินเดือนได้เลย เช่น เราเป็นนักเขียนที่ทำกราฟิคได้ด้วยเงินเดือนก็เรียกเพิ่มได้สบาย ๆ เลยค่า
.
5. ผลการเรียน
ใช่แล้วค่ะ เกรดเฉลี่ยมีผลต่ออัตราเงินเดือนเริ่มต้นของเรา ยิ่งได้เกียรตินิยมก็จะเรียกเงินเดือนได้สูงกว่าผู้สมัครที่ไม่จบเกียรตินิยม เพราะบางบริษัทมองว่าเกรดเฉลี่ยแสดงออกถึงความตั้งใจและความพยายามของเรา ดังนั้นเกรดเฉลี่ยจึงมีผลต่อการสตาร์ตเงินเดือนเช่นกัน
.
6. ตรงสายหรือเปล่า
เพราะบางคนได้งานทำที่ไม่ตรงกับสายที่เรียน ทำให้บริษัทใช้ข้อนี้ในการต่อรองเงินเดือนกับเราได้ค่ะ แน่นอนว่าจะได้ต่ำกว่าคนที่จบมาตรงสายงานแน่นอน
.
7. โครงสร้างองค์กร
บางคนจบสายเดียวกับเพื่อนเลย แต่ไปสมัครงานกันคนละบริษัทและเงินเดือนก็ไม่เท่ากัน สาเหตุก็เพราะโครงสร้างบริษัทแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อาจจะบริษัทนี้ใหญ่โตกว่าผลกำไรแต่ละปีเยอะกว่า หรืออยู่ในเมืองไม่ใช่ชานเมืองที่ค่าครองชีพสูงกว่าก็มีผลค่ะ
.
8. ความสามารถทางด้านภาษา
ยุคนี้การใช้ภาษาอังกฤษได้คือแทบจะเป็นเรื่องปกติแล้วค่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะจบสายไหนมาก็ตาม ถ้าเรามีสกิลภาษาติดตัวในระดับที่ใช้ทำงานได้ก็จะช่วยให้เราสตาร์ตเงินเดือนได้สูงขึ้นด้วยค่ะ ยิ่งถ้าได้สองภาษาขึ้นไปแบบไม่รวมภาษาไทยนะก็ยิ่งมีสิทธิ์ต่อรองเยอะค่ะ
