ไม่ว่าอยากไปเกาหลีด้วยเหตุผลอะไร จะไปหาโอป้า ไปเจอเมน ไปช้อป ไปฮอปตามคาเฟ่ หรือไปเดินเล่นเป็นวัยรุ่นเทสดี เราต้องผ่าน ตม. ให้ได้ก่อนค่ะสาว แล้วเดี๋ยวนี้ยิ่งยากเย็นเหลือเกินแม๊!!!! แต่… ยังพอมีหนทางค่ะ มาเตรียมพร้อมด้วย How To เอาตัวรอดจาก ตม. เกาหลีสุดโหดตามนี้กัน!
เตรียมเอกสารให้พร้อม
บัตรประชาชน พาสปอร์ตใหม่-เก่า บัตรนักเรียน ใบรับรองจากโรงเรียน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใบจองที่พัก แพลนเที่ยว Arrival Card และอย่าลืมลงทะเบียน K-ETA นะคะ ยังต้องลงอยู่น๊า ถ้าเคยเปลี่ยนชื่อ ต้องเอาใบเปลี่ยนชื่อไปด้วย และควรแลกเงินวอนพกติดตัวไว้บ้าง เอาให้พอดีกับจำนวนวันที่ไป อย่ามากเกินหรือน้อยเกินไปค่ะ
แต่งตัวแบบวัยรุ่นเทสดี
การแต่งตัวมีผลกับการผ่าน ตม. ค่ะ เอาให้ดูดีมีเทส เอากล้องออกมาสะพายด้วยยิ่งดี ใครไม่มีไอเดีย ลองไปหาเรฟตาม Pinterest หรือใส่ตามไอดอลเลยค่ะ ถ้าใส่ชุดนอนมาบนเครื่อง ก็เปลี่ยนก่อนไปเจอ ตม. และอย่าใส่เยอะๆ เว่อร์ๆ หรือใส่ไม่ตรงฤดูกาล ไม่อย่างนั้นต่อให้ไม่ใช่ ตม. ก็เอ๊ะได้อยู่นะ
ฝึกสกิลภาษาอังกฤษ
เพราะภาษาอังกฤษคือภาษาที่ ตม. ใช้ถามเราค่ะ ยิ่งใช้เก่งยิ่งเพิ่มเปอร์เซนต์ผ่านสูง บางคนไปเที่ยวจริงๆ จำข้อมูลได้ครบ แต่ตอบติดๆ ขัดๆ เพราะใช้ภาษาไม่คล่อง มันก็ทำให้ ตม. สงสัยและเรียกเข้าห้องเย็นได้ ส่วนแนวคำถาม-คำตอบส่วนใหญ่จะถามว่า มากี่วัน ? มากับใคร ? พักแถวไหน ? คนที่มาด้วยชื่อ-นามสกุลอะไร ? แลกเงินมาเท่าไหร่ ? เป็นต้น
ท่องไว้ “อย่าแพนิค”
เวลาเจอหรือได้คุยกับ ตม. คือเหงื่อแตก มือสั่น ตาล่อกแล่ก อาการแบบนี้มันเข้าข่ายน่าให้สงสัยค่ะ เพราะจะมองให้เป็นตื่นเต้นก็ได้ หรือมีพิรุธก็ได้ ดังนั้น ให้ยิ้มแย้มแจ่มใส อย่าหลบตา ฝึกจิต ใช้ความนิ่งสงบเข้าสู้ ตม. ค่ะ
พยายามอยู่และคุยแค่กับกลุ่มตัวเอง
อย่างที่เราได้ยินข่าวมาหลายครั้งเลยค่ะ ส่วนหนึ่งที่ ตม. เกาหลีเข้มงวด หรือบางคนให้ผ่านตามอารมณ์ ตามดวง ก็มาจากเหล่าผีน้อยนี่แหละ เราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาบินลำเดียวกับเรามั้ย ? ถ้ามีคนแปลกหน้าดูทรงไม่น่าไว้ใจมาตีสนิทตอนรอแถว ตม. พยายามตอบเท่าที่จำเป็นแล้วเดินแยกออกมาค่ะ ไม่อย่างนั้น ตม. จะคิดว่ามาด้วยกัน เวลาโดนเรียกเข้าห้องเย็นก็จะโดนกันหมดค่ะ
อ้างอิงภาพจาก : Pinterest