เราก็สวยซะด้วยสิ! คือคนเป็นแฟนกัน หึงกันบ้างก็เป็นปกติ! แต่… ถ้าหึงเข้าขั้นหนัก ความสัมพันธ์มีปัญหา ลองเอาวิธีข้างล่างนี้ไปรับมือคุณแฟนให้ลดความหึงหวงลงกันนะคะ!

เปิดใจคุยกันตรงๆ

            วิธีแรก ลองหาจังหวะเปิดใจคุยกันตรงๆ ค่ะ ถามเลยว่าเพราะอะไรถึงหึง ? เขาอาจมีเรื่องฝังใจ อย่างเคยโดนนอกใจมาก่อนก็ได้ เราจะได้รู้สาเหตุและไม่ทำแบบนั้น และถ้าเราทนจนอึดอัดก็ให้บอกเขาตรงๆ แต่อย่างแรงค่ะ เช่น บอกให้เขาลดลงได้ไหม เรารักเขาเหมือนที่เขารักเรานั่นแหละ และเราก็ไม่เคยนอกใจใครนะ ประมาณนี้ค่ะ

อัปเดตชีวิตประจำวันเสมอ

            พยายามบอกให้เขารับรู้ชีวิตของเราเท่าที่เราทำได้ เช่น วันนี้ไปไหน  ทำอะไร อยู่กับใคร ถ่ายรูปส่งไปให้ดู เพราะคนขี้หึงส่วนใหญ่จะมโนไปเองเก่งค่ะ ถ้าเราอัปเดตเรื่องราวของเราเสมอ ระดับความหึงก็น่าลดลงได้

เพิ่มความมั่นใจให้เขา

            เพราะคนขี้หึงจะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองค่ะ ต่อให้ในความจริงเขาเพอร์เฟกต์มากสำหรับเราแล้วก็เถอะ ฉะนั้น เราต้องสร้างความมั่นใจให้เขาด้วยการชมเขาบ่อยๆ บอกรักเขาเสมอ ทำให้รู้ว่าเรารักเขาจริงๆ เขาจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากพอที่เราจะรักและอยู่ด้วย

ห้ามโกหก

            การโกหกคือสิ่งต้องห้ามถ้าเรามีแฟนขี้หึงค่ะ (เดิมทีก็ระแวงหนักอยู่แล้ว) ไม่ว่าจะโกหกเพื่ออะไร พยายามอย่าทำ ถ้าเผลอไปทำครั้งหนึ่งแล้วเขาจับได้ ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลง และเราจะไม่มีความสงบสุขอีกเลยในความสัมพันธ์ 555++

ประกาศให้รู้ว่าฉันไม่โสดนะ

            คือถ้าแฟนขี้หึงแบบอาการหนักหน่อย ก็ทำให้เขามั่นใจ เชื่อใจขึ้นอีกด้วยการติดสเตตัสมีแฟนแล้วไปเลยค่ะ หรือไปไหนก็โพสต์รูปคู่กันบ้าง เพราะหลายคนก็โดนหึงจากโซเชียลนี่แหละ (แต่ก็อย่าโพสต์บ่อยค่ะ เดี๋ยวเพื่อนมองบน)

ทำตัวให้น่าไว้ใจ

            ถ้ารู้ว่าใคร หรืออะไรจะทำให้แฟนหึง แบบมีเรื่องแน่ๆ ก็พยายามเลี่ยงค่ะ อย่าลองใจ อย่ายั่วให้เขาหึง เพราะปกติก็หึงหนักอยู่แล้ว เช่น อย่าโกหก อย่าตอบอะไรอึกๆ อักๆ อย่าผิดคำพูด

อย่าตามใจเกินไป

            ต่อให้ทำข้อบนๆ ครบแล้ว เราก็ห้ามตามใจเขาทุกอย่างค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะได้ใจ ไม่มีขอบเขต ใช้เหตุผลด้วยไม่ได้ และเราจะอึดอัด สุดท้ายอาจต้องเลิกกัน ดังนั้น เราต้องรักษาจุดยืนตัวเองไว้บ้างค่ะ แต่ถ้าทำข้อบนๆ ครบแล้ว แฟนไม่ดีขึ้นเลย เราต้องถามตัวเองนะว่าไหวไหมถ้าจะไปต่อ ?

อ้างอิงภาพจาก : Pinterest