ในวงการ K-Pop นอกจากจะมีเรื่องผลงานของเหล่าไอดอลที่เราชื่นชอบมาให้ตื่นเต้นแล้ว ยังมีเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจจะทำให้แฟน ๆ อย่างเราต้องรู้สึกแปลกใจไปตาม ๆ กันด้วย เพราะมาจนถึงทุกวันนี้ ก็มีเหตุการณ์บังเอิญหลายอย่างเหลือเกิน ที่ให้ความรู้สึกว่าบังเอิญจริง ๆ หรือเป็นการบอกอนาคตล่วงหน้ากันแน่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับจักรวาลของเรากันแน่ล่ะเนี่ย!? 

และนี่คือ 5 เหตุการณ์สุดบังเอิญจนขนลุก ที่เกิดขึ้นใน K-Pop จะมีอะไรบ้างนั้น ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าจ้า

.

1. สไตลิสต์ทำนายอนาคต SNSD

เรื่องแรกที่จะพูดถึงก็คือเรื่องของวง SNSD ที่เป็นดั่งเกิร์ลกรุ๊ปประจำชาติมานานกว่าสิบปี และเต็มไปด้วยเพลงฮิตติดหู ไม่ว่าใครก็ร้องตามได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเพลง Hoot, The Boys, Taxi, Mr Mr, I got a boy, Gee และ อีกหลาย ๆ เพลง ที่ถ้าดังขึ้นมาปุ๊บ จะต้องตอบกันได้แน่นอนว่าเป็นเพลงอะไร

สำหรับวง SNSD หรือ Girls’ Generation เริ่มสายอาชีพไอดอลมาด้วยสมาชิกทั้งหมด 9 คน ภายใต้สังกัดค่าย SM Entertainment แถมยังเป็นปรากฏการณ์สร้างยุคใหม่ให้กับไอดอลหญิงเลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่เริ่มวงมา ก็ล้างชาร์ตเพลง และตีคู่สูสีกับยอดขายอัลบั้มแข่งกับวงบอยแบนด์มาโดยตลอด ณ ขณะนั้น

แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลับเกิดเหตุการณ์น่าขนลุกขึ้น เมื่อมีคนไปดูเวที Live เก่า ๆ ของสาว ๆ เมื่อหลายปีก่อน แล้วก็มาเจอกับเวทีพิเศษที่เชื่อว่า จะต้องเป็นการทำนายอนาคตของ SNSD อย่างแน่นอน ซึ่งรายการที่ว่านั้นก็คือ เวที SBS Inkigayo เดือนพฤศจิกายน 2010 เป็นตอนที่วง SNSD กำลังแสดงเพลง “Hoot” หนึ่งในเพลงฮิตติดหูตลอดการ แต่ตอนนี้เราจะลืมประเด็นที่ว่าเพลงนี้ฮิตแค่ไหนกันไปก่อน เพราะประเด็นที่เราจะพูดถึงกันในตอนนี้คือ ชุดที่สมาชิกทุกคนใส่ในการแสดงนั่นเอง

จะเห็นได้ว่า ในเวทีนี้ สาว ๆ มีชุดที่เป็นสีหลักอยู่ 2 สี ซึ่งก็คือ สีชมพู และสีแดง โดยสมาชิกทั้งวงจะถูกแบ่งออกเป็นสองสี และที่น่าแปลกใจคือ มีเฉพาะสมาชิกคนที่สวมชุดสีแดงเท่านั้น ที่ต่อสัญญากับทางค่าย และอยู่กับค่ายมาจนถึงปี 2021 นี้ ในขณะสมาชิกในชุดสีชมพูด คือบรรดาสมาชิกที่ตัดสินใจออกจากค่าย SM เพื่อมองหาหนทางใหม่ ๆ ในสายอาชีพ… ดูเหมือนว่าเรื่องสีชุดจะไม่ใช่แค่เรื่องสีธรรมดา ๆ ซะแล้วสิ!

สมาชิกที่สวมชุดสีแดงได้แก่ แทยอน, ยุนอา, ยูริ, ซันนี และฮโยยอน ส่วนสมาชิกในชุดสีชมพูดได้แก่ เจสสิกา, ทิฟฟานี, ซูยอง และซอฮยอน เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว แฟน ๆ บางคนก็พูดติดตลกว่า พลังในการทำนายของสไตลิสต์นี่ช่างกล้าแกร่งเหลือเชื่อซะจริง ๆ และแน่นอนว่าในบรรดาคอมเมนต์ติดตลกเหล่านี้ ก็ยังมีแฟน ๆ ที่รู้สึกเสียใจเมื่อเห็นภาพนี้ และต่างพากันพูดว่า สไตลิสต์ในตอนนั้น น่าจะจัดชุดสีแดงเหมือนกันให้หมดเลยนะ

.

2. อาถรรพ์ “Who’s Next”

เรื่องลึกลับต่อมา ก็ถือเป็นข่าวลือที่ค่อนข้างหนาหูในวงการ Kpop เลยทีเดียว และนั่นก็คือ “Who’s next” ประโยคเด็ดจาก YG นั่นเอง 

โดยเรื่องนี้กล่าวขานกันว่า เมื่อใดก็ตามที่ YG อัปโหลดโปสเตอร์ของศิลปิน มาพร้อมกับประโยคติดหูอย่าง “Who’s next”  มักจะต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้ว ประโยคที่แปลว่า “ใครจะเป็นรายต่อไป?” นี้ อาจจะต้องการสื่อถึงอะไรใหม่ ๆ ว่า ไม่ว่าจะเป็นศิลปินใหม่ ผลงานใหม่ หรือคัมแบ็กของเหล่าไอดอล แต่ทว่าในบรรดาแฟน ๆ กลับมองเห็นประโยคนี้เป็นเหมือนลางร้าย ที่ทำนายว่า “ใครจะซวยเป็นรายต่อไป?”  กันซะนี่  

และที่เป็นแบบนี้ก็มีเหตุผลของมัน เนื่องจากว่า ทุกครั้งที่มีการโปรย “Who’s next?” ออกมา ก็มักจะตามมาด้วยข่าวไม่ดีของเหล่าไอดอล ไม่ว่าจะเป็นการที่สมาชิกออกจากค่าย หรือยุติสัญญา แถมไม่ได้มีผลแค่ใน YG ด้วยนะ แต่ว่ามีผลกับทั้งวงการเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าทุกคนอยากจะขอให้เรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่เกิดขึ้นพอดี แต่ก็มีเหตุการณ์บังเอิญหลายอย่างมากเกินไป จนน่าจะเป็นหลักฐานของทฤษฎีนี้ได้ดี

อย่างล่าสุดนี้ คัมแบ็ก “ALIEN” ของซูฮยอน  AKMU เองนั้น YG ก็ได้ใช้ประโยคเด็ด “who’s next” เพื่อโปรโมตลงบนโซเชียลอีกเช่นเคย

แต่แน่นอนว่า แทน ๆ ที่แฟน ๆ จะตื่นเต้นกับประโยคนี้ แต่หลายด้อมกลับรู้สึกตื่นตระหนกและกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งเรื่องที่ทุกคนคิดก็เกิดขึ้นซะจนได้จริง ๆ 

ภายในเวลา 1 สัปดาห์ วงการ KPop ก็ต้องสะเทือนและช็อกไปตาม ๆ กัน กับข่าวของไอรีน เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อสไตลิสต์ ซึ่งกลายเป็นประเด็นดราม่ายาวนานในขณะนั้น 

และเมื่อย้อนเวลากลับไปอีก ในปี 2014 ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ YG เริ่มโปรเจกต์ “Who’s Next” และใช่แล้ว อาถรรพ์นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่ครั้งแรกเลยทีเดียว เมื่อ YG โพสต์ประโยคนั้นลงบนทวิตเตอร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็มีข่าว คริส วู ออกจาก EXO แบบพอดิบพอดี

และหลังการโพสต์ครั้งที่ 2 ก็ตามมาด้วยข่าวการออกจากวงของ เจสสิกา SNSD และ อีจุน และ Thunder จากวง MBLAQ 

อาถรรพ์ครั้งที่ 3 นั้น คือหลังปล่อยโปสเตอร์ “Who’s Next” ในปี 2015 ก็เป็นข่าวการหมดสัญญาของ ซึลอง และจินอุน วง 2AM ส่วนครั้งที่ 4 นั้นก็ปล่อยออกมาในปีเดียวกัน และตามมาด้วยข่าวการออกจากวง APRIL ของ โซมิน (KARD)

เหตุบังเอิญอีกเรื่องของ “Who’s next” ก็มีอีกตอนที่ค่าย YG โพสต์คำนี้ลงบนโซเชียล ก่อนที่วง 4Minute จะยุบวงพอดิบพอดี ซึ่งทุกครั้งที่โพสต์มักจะมีข่าวทำนองนี้ตามมาในไม่กี่วันเสมอ ทำให้แฟน ๆ รู้สึกหวั่นวิตกกันมากในทุก ๆ ครั้งที่เห็นคำนี้จากค่ายดำ ประหนึ่งคำโปรยที่มักจะเจอในหนังสยองเลยก็ว่าได้

.

3. อาถรรพ์ 3 เดือน YG

YG ดูเหมือนจะเป็นค่ายที่ดูมีความลึกลับที่สุดในวงการ Kpop เลยก็ว่าได้นะเนี่ย เพราะนอกจากอาถรรพ์ “Who’s Next” แล้ว ก็ยังมีเรื่องอาถรรพ์ 3 เดือน ด้วยอีกต่างหาก ซึ่งหลาย ๆ คนจะเห็นกันได้ชัด ๆ มากที่สุดก็ในปี 2019 เพราะเป็นช่วงที่ค่าย YG จะมีการคัดเด็ดฝึกออกทุก ๆ 3 เดือนนั่นเอง

คนแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ Kang Sung Hoon ที่ได้ออกจาก Sechskies และ YG ในเดือนมกราคม โดยไอดอลชายคนนี้มีลิสต์การทำผิดยาวเป็นหางว่าว ตั้งแต่เรื่อง เดตกับแฟนคลับ รวมถึงมีการฉวยผลประโยชน์จากกองทุนของแฟนคลับ

ส่วนในเดือนมีนาคม ก็มีข่าวของ Seungri มักเน่ของ BIGBANG อย่างที่เราทราบกันดีจากกรณีของคลับ Burning Sun รวมถึงเรื่องการใช้ยาเสพติด การหนีภาษี ก็ยังมีเรื่องการค้าประเวณีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

จากนั้นอีกสามเดือนต่อมา แร็ปเปอร์มากความสามารถอย่าง B.I. วง iKON ก็ได้ออกจากค่ายไปอีก เพราะมีการถูกโยงกับการค้ายาในปี 2016

นอกจากนี้แล้ว ไอดอลคนอื่น ๆ ในค่าย YG เอง ก็ยังมีเรื่องอื้อฉาวนิด ๆ หน่อย ๆ ในปี 2019 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปีของ YG จริง ๆ (แต่ก็ไม่ใช่ในทางที่ดีเท่าไหร่)

.

4. อาถรรพ์ Produce 101

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือเหตุการณ์บังเอิญในรายการ Produce 101 ซึ่งก็อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า เป็นรายการที่ทำขึ้นมาเพื่อเฟ้นหาไอดอลที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ เรื่องความโหดจึงไม่ต้องพูดถึงกันเลย และรายการนี้ก็สามารถหาไอดอลหน้าใหม่ที่ดังเปรี้ยงปร้างให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม Kpop ได้แบบไม่ต้องสงสัย

และความแปลกก็อยู่ที่ ในรายการ Produce สามซีซันแรก จะมีผู้ร่วมรายการที่เห็นได้ชัด ๆ ว่าควรจะได้เดบิวต์สุด ๆ แต่กลับถูกคัดออกไปก่อนอย่างน่าเสียดาย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ: Kim Jong Hyun – ลีดเดอร์ NU’EST (Produce 101 ซีซัน 2) ตกไปในอันดับ 14, Kang Dong Ho – NU’EST ถูกคัดออกไปในอันดับ 13 , Kim Samuel – หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่มีความสมบูรณ์แบบ และใครต่อใครก็คิดว่าจะได้เดบิวต์ แต่กลับถูกคัดออกไปในอันดับ 18

และแล้วก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันเกิดขึ้นอีกในซีซัน 4 โดยที่ Lee Jin Hyuk ถูกคัดออกไปในอันดับ 14 เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ดูต่างก็คิดว่ายังไง้ ยังไง เขาก็ต้องได้เดบิวต์ และผลจากการแข่งขันนี้ ทำให้อันดับ 14 กลายเป็นอันดับอาถรรพ์ของผู้มีความสามารถไปเลย

และอีกเรื่องที่น่าแปลกก็คือ ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ามาด้วยอันดับ 24 ในรอบแรก มักจะได้เข้าไปจนถึงรอบไฟนอล เหมือน ๆ กับ Im Nayoung และ Park Woojin แต่ในทางกลับกัน คนที่ดูโดดเด่นในรอบแรก ๆ มักจะถูกคัดออกไป เช่น Ki Heehyun จากซีซัน 1, Ahn Hyungseob จาก 2 และ Goto Moe จากซีซัน 3 

จากผลที่ผ่านมานี้ทำให้แฟน ๆ ต่างงงไปตามกัน ซึ่งตอนแรก ๆ ก็คิดว่าแฟน ๆ คงจะเดาผิดกันไปเอง แต่เมื่อมีการสงสัยจนถึงขั้นตรวจสอบ โดยในเดือนสิงหาคม 2020 ก็มีการเผยว่า ตลอดสี่ซีซันที่ผ่านมา มีการทำผลโหวตปลอม และวางตัวคนเดบิวต์เอาไว้แล้ว

และผลจากข่าวนี้ ทำให้วง X1 ที่เพิ่งจะเดบิวต์ได้หมาด ๆ ก็ต้องสลายตัวกันไป ซึ่งยิ่งทำให้แฟน ๆ แค้นโปรดิวเซอร์กันเข้าไปใหญ่ ที่ตัดทั้งโอกาสเด็กฝึกที่ควรจะได้เดบิวต์ รวมถึงคนที่ได้เดบิวต์แล้ว ก็ต้องมายกเลิกไปแบบไม่แฟร์ด้วย

.

5. ภาพในอดีตของ จิน BTS

เหตุการณ์ความน่าบังเอิญจนต้องขนลุกอีกเรื่อง ต้องยกให้เป็นของ Jin วง BTS ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเคยรู้จักกับดาราฮอลลีวูดด้วย โดยทางเนติเซนเกาหลีได้มีการค้นพบภาพในอดีตของ Jin แล้วพบว่าเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาในตอนนั้นเป็นดาราดิสนีย์ชื่อดัง อย่าง Mitchell Hope

หากใครยังงงอยู่ Mitchell Hope เป็นศิลปินชาวออสเตรเลีย ที่โด่งดังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนรู้จักเขาผ่านซีรีส์ดิสนีย์เรื่อง “Descendants” และภาพยนตร์ Netflix “Let it snow”

ย้อนความไปสมัย 2007 สาเหตุที่ทำให้มีภาพนี้ เป็นเพราะตอนนั้น Jin ไปเข้าค่ายซัมเมอร์ในออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แล้วบังเอิญไปอยู่ค่ายเดียวกันกับ Mitchell เฉย ๆ และค่ายนี้ก็จัดขึ้นในช่วงสั้น ๆ ทำให้เนติเซนก็เข้าใจว่า ก็คงไม่ได้สนิทอะไรกันมาก แค่บังเอิญร่วมเฟรมกันเท่านั้น 

แต่ว่าหลังจากที่มีภาพนี้เผยแพร่ออกไป Mitchell Hope ก็ได้มา Follow บัญชี IG ของ BTS ซะอย่างนั้น แต่น่าจะเป็นเพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับวงการนี้เท่าไหร่ จึงไม่ทราบว่านั่นเป็นแค่บัญชีของทางค่าย ไม่ใช่ของตัวศิลปินเอง

หลังจากที่มีการฮือฮากันเรื่องความสัมพันธ์ของ Jin และ Mitchell Hope กันมาได้ระยะหนึ่ง ทุกคนถึงเพิ่งจะได้รู้เรื่องราวที่มาที่ไปจริง ๆ ของเรื่องนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดตอนแรก แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ ค่ายนี้มีหนุ่มหล่อที่ประสบความสำเร็จในอาชีพตัวเองอยู่ด้วยถึงสองคนเลยนะเนี่ย

.

.

Source